5 อันดับเทรนด์การดูแลสุขภาพในปี 2023
Post Date : 21 December 2022
29 มีนาคม 2565 – บริษัท ไบโอเบส ยุโรป ไพล็อท แพลนท์ (Bio Base Europe Pilot Plant: BBEPP) ประเทศเบลเยี่ยมและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โลกในวันนี้เแตกต่างจากเมื่อสิบปีก่อนเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดในเรื่องของการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการระบาดใหญ่ของ covid-19 รวมกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ การก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีและการแปลงทางดิจิทัล โดย Bernard Marr ได้สรุปแนวโน้มที่สําคัญด้านเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพในปี 2023 ไว้ดังนี้
#AI ในระบบการดูแลสุขภาพ
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะเครื่องมือแมชชีนเลิร์นนิง (ML) ในสายของการดูแลสุขภาพคาดว่าจะมีโอกาสที่จะมีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 นอกจากนี้ เทคโนโลยีในสายของ AI ต่างๆ เช่น computer vision การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural language processing) และอัลกอริธึมการพิจารณารูปแบบ (Pattern recognition algorithm)ได้ถูกนำมาใช้ในระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพแล้วและจะยังคงถูกนํามาใช้เพิ่มขึ้นต่อไป
ในปี 2023 เราอาจมีการนำ AI มาใช้เพื่อการการค้นพบยา (drug discovery) ซึ่ง AI สามารถช่วยทํานายผลลัพธ์ของการทดลองทางคลินิกและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากยาใหม่ ตลอดจนการวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้อัลกอริธึมการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อระบุสัญญาณเตือนล่วงหน้าของโรคในรังสีเอกซ์หรือการสแกน MRI การตรวจหาและรักษาความผิดปกติทางระบบประสาท รวมทั้งโรคพาร์กินสันและโรคอัลไซเมอร์
นอกเหนือจากงานทางคลินิกแนวหน้าแล้ว AI ยังมีแอปพลิเคชันในงานธุรการ เช่น การประมวลผลการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนและการจัดการหรือการวิเคราะห์การเก็บเวชระเบียน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมจากอุปกรณ์สวมใส่ของผู้ป่วยหรือเซ็นเซอร์ในบ้านที่เชื่อมเข้ากัย Virtual Hospital เพื่อใช้ในการเตือนล่วงหน้าหรือการวินิจฉัยเชิงคาดการณ์ของเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่า AI และ ML จะยังคงเป็นเทรนด์ที่โดดเด่นในการดูแลสุขภาพตลอดทั้งปีที่จะถึงนี้
#Telehealth การดูแลสุขภาพระยะไกล
การดูแลสุขภาพจากระยะไกลได้ถูกนำมาใช้เพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ แม้ตอนนี้เราจะเริ่มกลับมาพบแพทย์แบบตัวต่อตัวแล้วก็ตาม แต่ผู้บริโภคได้ตระหนักแล้วว่าระบบการแพทย์ทางไกลสามารถให้การดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าอย่างมากเมื่อเทียบกับการดูแลผู้ป่วยใน
นอกจากนั้นก็มีเรื่องของ #Telemedicine ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่วิดีโอคอลหาแพทย์ไปจนถึงการผ่าตัดระยะไกลซึ่งศัลยแพทย์ทําการผ่าตัดกับผู้ป่วยในสถานที่ห่างไกลโดยใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์ รูปแบบการดูแลสุขภาพระยะไกลอีกรูปแบบหนึ่งคือ virtual hospital ward ซึ่งเป็นระบบที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ส่วนกลางสามารถให้การดูแลผู้ป่วยระยะไกลได้หลายคนในเวลาเดียวกัน
ด้วยกระแสการดูแลสุขภาพด้วยตนเองที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการขาดแคลนผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ การดูแลสุขภาพระยะไกลจึงเป็นอีกแนวโน้มที่เราจะเห็นเพิ่มขึ้นในปี 2023 อย่างแน่นอน
การดูแลสุขภาพผ่านร้านค้าปลีก
นักวิจัยของ Forrester กล่าวว่าจํานวนธุรกิจการดูแลสุขภาพที่ดําเนินการผ่านร้านค้าปลีกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงปี 2023 เห็นได้ชัดเจนจากผู้ค้าปลีกอย่าง Walmart, Amazon มีการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เช่น การตรวจเลือด การฉีดวัคซีน และการตรวจสุขภาพ
แนวโน้มนี้จะมีการขยายตัวเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกนําไปสู่การตัดลดงบประมาณของหลายองค์กรและผู้คนเริ่มหันมารัดเข็มขัด สิ่งนี้ประกอบขึ้นโดยผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพรายย่อยที่ใช้ประโยชน์ในการสร้างบริการที่มาพร้อมกับความสะดวก คุ้มค่k และเข้าถึงได้ง่ายกว่า
อุปกรณ์การแพทย์ที่สวมใส่ได้ (Wearable Medical Devices)
#Warable ต่างๆ จะได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงปี 2023 ผู้คนจะใส่เพื่อติดตามกิจกรรมด้านสุขภาพและการออกกําลังกายของตนเอง รวมถึงแพทย์เพื่อตรวจสอบผู้ป่วยจากระยะไกล ด้วยความก้าวหน้าของ “Internet of Medical Things” ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากอุปกรณ์ง่ายๆ ที่ออกแบบมาเพื่อติดตามสัญญาณชีพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและระดับออกซิเจนในเลือด ไปจนถึงนาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถสแกนที่ซับซ้อน เช่น คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ไปจนถึงสิ่งทออัจฉริยะที่สามารถตรวจจับความดันโลหิต และทํานายความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย หรือถุงมืออัจฉริยะที่สามารถลดแรงสั่นสะเทือนที่ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันได้
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถตรวจสอบและตรวจจับสัญญาณของความเจ็บป่วยทางจิต โดยนำตัวชี้วัดทางกายภาพ เช่น ระดับกิจกรรม รูปแบบการนอนหลับ และอัตราการเต้นของหัวใจ มาใช้เพื่อตรวจแนวโน้มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า
การดูแลสุขภาพส่วนบุคคล (Personalized Healthcare)
ในช่วงปี 2023 ผู้ป่วยจะมีโอกาสที่จะได้รับการดูแลสุขภาพที่เป็นส่วนตัวสําหรับพวกเขาโดยเฉพาะ ซึ่งรวมถึงแนวคิดของ precision medicine ซึ่งยาและการรักษาอื่น ๆ ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ป่วยแบบเฉพาะตัวโดยมีการนำปัจจัยต่างๆ มาใช้ในการวินิจฉัย เช่น อายุ ข้อมูลทางพันธุกรรมหรือจีโนมของบุคคล และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โดยอาจมีการนำอัลกอริทึม AI และ ML มาใช้เพื่อช่วยในการคาดการณ์เหล่านี้
การดูแลสุขภาพส่วนบุคคลบางครั้งยังใช้ในความสัมพันธ์กับการเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยมีส่วนในการเลือกวิธีการในการรักษาและดูแลสุขภาพของพวกเขา
และนี่คือส่วนหนึ่งของแนวโน้มสําคัญตลอดปี 2023
กดติดตาม EECi เพื่อรับข่าวสารด้านนวัตกรรมที่น่าสนใจ
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม email: info@eeci.or.th
=================================
Eastern Economic Corridor of Innovation (EECi)
Integrate Technologies, Accelerate Innovation
https://www.eeci.or.th/th/home
=================================
#healthcare #AI #ML #Telemedicine #Telehealth
ที่มา
The Top 5 Healthcare Trends In 2023https://www.linkedin.com/pulse/top-5-healthcare-trends-2023-bernard-marr/?trackingId=42HdvHB1QJ2z0g2TFaWGLg%3D%3D